mas template

ร้อนนี้ไร้ปัญหาด้วยภูมิปัญญาไทย

{[['']]}

เดือนเมษายนนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่คนอารมณ์ไม่ดี บ้างก็ล้มป่วยเพราะปรับตัวตามอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ทัน วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักวิธีคลายร้อนด้วยภูมิปัญญาไทย ที่ทั้งประหยัดและดีต่อสุขภาพ แถมยังไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ สาเหตุสำคัญของโรคหวัดหน้าร้อนสำหรับคนเมืองกันอีกด้วย
คนไทยนั้นแสนโชคดีที่บรรพบุรุษของเรารู้จักนำสรรพคุณจากสิ่งรอบตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสรรค์สารพัดเมนูคาว-หวาน เพื่อดับร้อนทั้ง ข้าวแช่ น้ำสมุนไพร และขนมหวานต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติเป็น 'ยาเย็น' ช่วยปรับสมดุลไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายร้อนหรือเย็นจนเกินไป

"ข้าวแช่" ไม่ใช่อาหารไทยแท้แต่เป็นอาหาร พื้นบ้านของชาวมอญที่นิยมทำขึ้นสังเวยเทวดาในพิธีตรุษสงกรานต์ โดยประเพณีของคนมอญโบราณกล่าวไว้ว่า ในวันสงกรานต์จะต้องทำข้าวแช่ถวายพระสงฆ์เพื่อเป็น สิริมงคลแก่ผู้ถวาย ซึ่งคนมอญจะเรียกข้าวแช่หรือข้าวสงกรานต์นี้ว่า "เปิงด้าจก์" แปลว่า "ข้าวน้ำ" (เปิง หมายถึงข้าว และ ด้าจก์ หมายถึงน้ำ) และด้วยสภาพภูมิอากาศ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงการติดต่อสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดระหว่างไทย-มอญตั้งแต่สมัยอดีต ทำให้คนไทยรับเอาวัฒนธรรมในการกินดังกล่าวมาประยุกต์ให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น จนกลายเป็น "ข้าวแช่ชาววัง" ที่เราทั้งหลายต่างรู้จักดี
ข้าวแช่ชาววัง จะกินกับเครื่องเคียงหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พริกหยวกสอดไส้ ปลายี่สนผัดหวาน เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน หัวหอมสอดไส้ ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน หมูสับกับปลากุเลา หมูฝอย รวมถึง กะปิทอดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ นอกจากเครื่องเคียงแล้วคนไทยยังนิยมกินข้าวแช่แนมกับผักสดที่มีกลิ่นหอมและออกรสเปรี้ยวนิดๆ เช่น แตงกวา กระชาย มะม่วงดิบ ต้นหอม กระชาย และพริกชี้ฟ้าสด ส่วนวิธีการกินต้องเริ่มจากการนำข้าวแช่ในน้ำลอยดอกไม้ใส่น้ำแข็งเล็กน้อย จากนั้นต้องเริ่มกินเครื่องเคียงก่อนแล้วจึงตามด้วยข้าวแช่ ก็จะได้รสชาติทั้งเย็นฉ่ำและความอร่อยกลมกล่อมของกับข้าว
สำหรับสรรพคุณสำคัญที่ได้จาก 'ข้าวแช่' ก็คือช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ลดอุณภูมิภายในร่างกาย คลายความร้อน ปรับสมดุลในร่างกายช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น ลดความเสี่ยงจากอาการ ผิวแห้ง ปากแตก รวมถึงอาการร้อนใน ส่วนน้ำสมุนไพร ก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการคลายร้อน ของคนไทย ซึ่งหากพูดถึงสมุนไพรบ้านเราที่มีสรรพคุณช่วยดับกระหายและแก้ร้อนในนั้นก็จะพบว่ามีมากมายหลายชนิดทั้ง กระเจี๊ยบ บัวบก สะระแหน่ แตงโม ฯลฯ แต่ที่เป็นไฮไลท์สุดๆ เห็นทีจะเป็นสมุนไพรลูกครึ่ง ไทย-จีนอย่าง เก็กฮวย ที่มีสรรพคุณเป็นยาเย็น เหมาะสำหรับ ฤดูร้อนนี้เป็นอย่างยิ่ง

น้ำเก็กฮวย ทำมาจากดอกเก็กฮวยซึ่งเป็นพืช พื้นเมืองของประเทศจีน อยู่ในตระกูลเดียวกับเบญจมาศ มีสรรพคุณสำคัญช่วยในการดับพิษร้อน แก้ร้อนใน แก้ปวดท้อง ดีต่อระบบขับถ่าย ทั้งยังมีสรรพคุณในการขยายหลอดเลือดจึงช่วยป้องกันปัญหาโรคหลอดเลือด ทั้งความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ รวมถึงโรคหัวใจได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้น้ำเก็กฮวยยังดีต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ผ่านการทำเคมีบำบัด ที่มักจะมีอาการร้อนใน คอแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง ท้องผูก ปวดเมื่อยร่างกาย ฯลฯ อันเป็นผลมาจากการที่ตับทำงานหนักในการขจัดสารพิษ การดื่มน้ำเก็กฮวยที่ถือเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถ ลดความร้อนในร่างกายและช่วยขับพิษร้อนในตับได้
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้วิธีคลายร้อนในช่วงเดือนเมษายังสามารถทำได้โดยการสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยมีเสื้อผ้าที่ทำจากใยฝ้าย เป็นทางเลือกแรกที่เราขอแนะนำ เนื่องจากผ้าฝ้ายไม่เพียงแต่สวมใส่สบาย แต่ยังมีคุณสมบัติสำคัญในการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี
ในเมื่ออากาศร้อนเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ การแก้ปัญหาโดยการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อการกิน-อยู่ที่เหมาะสม คือเคล็ดลับ





ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
Share to friend :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2013. KIP Thai - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger