{[['
']]}
']]}
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่าแม้ว่าในช่วงบ่ายถึงเย็นวันที่ 31 มี.ค.56 ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่และใกล้เคียงจะมีฝนตกลงมา อย่างไรก็ตามไม่ได้ทำให้สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศดีขึ้นจนถึงขั้นคลี่คลายลงแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.56 สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันเช่นเดิม ขณะที่การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศ พบว่ามีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 100 ตามลำดับ ติดต่อกันเป็นวันที่ 12 แล้ว
โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10และดัชนีคุณภาพอากาศ ที่ตรวจวัดพบเกินค่ามาตรฐานที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง โดยเมื่อเวลา 10.00 น.(1 เม.ย. 56) อยู่ที่ 122.99 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 103 ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 10.00 น. (1 เม.ย. 56) อยู่ที่ 96.68 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 86
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยตรวจการรับสัมผัสสาร PAHs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยการตรวจปัสสาวะเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาและผู้ปกครองในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ในปี 2553
โดยเก็บตัวอย่างเด็กนักเรียนและผู้ปกครองจำนวน 484 คู่ พบว่ากลุ่มตัวอย่างจากชุมชนนอกเมืองมีการรับสัมผัสสาร PAHs สูงกว่ากลุ่มตัวอย่างในชุมชนเมืองถึง 3.5 เท่า นอกจากนี้ในการศึกษาดังกล่าวยังได้ทำการวิจัยการตรวจสารพิษ PAHs และพบว่าความเป็นพิษของสาร PAHs ที่ตรวจพบบนฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 มีความเป็นพิษเพิ่มมากขึ้น 2.8 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อนหน้าที่จะทำการศึกษาในครั้งนี้
ที่มา : เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น