mas template

โลกดวงใหม่ เคปเลอร์ 22-บี ความฝันใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว ... แต่ที่แน่ ๆ เคปเลอร์ ยากจนค่นแค้นตลอดชีวิตและตายอย่างอนาถา แต่สิ่งที่มอบให้แก่โลกนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน !!

{[['']]}

โลกดวงใหม่ "เคปเลอร์ 22-บี" ความฝันใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว ... แต่ที่แน่ ๆ
"เคปเลอร์"  ยากจนค่นแค้นตลอดชีวิตและตายอย่างอนาถา  แต่สิ่งที่มอบให้
แก่โลกนั้น ยิ่งใหญ่เหลือเกิน !!

ความฝันของมนุษย์ใกล้ความจริงอีกแล้วหรือนี่ !! ...โลกดวงใหม่ "เคปเลอร์ 22-บี"
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ NASA ได้
เปิดเผยรายงานให้โลกได้รับรู้ และสั่นสะเทือนวงการดาราศาสตร์โลกทีเดียว  นั่นคือ
การค้นพบดาวเคราะห์ ที่มีลักษณะเหมือนโลกที่สุด  โดยตั้งชื่อว่า "เคปเลอร์ 22-บี" 
องค์การ NASA  ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า  ดาวเคราะห์ดวงนี้  มีขนาดใหญ่กว่าโลกเรา
2.4 เท่า   อุณหภูมิโดยเฉลี่ย อยู่ที่  22 องศาเซลเซียส  เหมาะสมกับสิ่งที่มีชีวิต
อยู่ไกลจากโลกเรา  600 ปีแสง  หรือแสงเดินทางใช้เวลา 600  ปี  หรือไกลกว่า
6,000  ล้านล้านกิโลเมตร
ความจริง องค์การ NASA สหรัฐ  ได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงนี้ ตั้งแต่ปี 2552  แล้ว  ด้วย
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์   แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก

Closer to Finding an Earth
This artist's conception illustrates Kepler-22b, a planet known to comfortably
circle in the habitable zone of a sun-like star. It is the first planet that NASA's
Kepler mission has confirmed to orbit in a star's habitable zone -- the region
around a star where liquid water, a requirement for life on Earth, could persist. The planet is 2.4 times the size of Earth, making it the smallest yet found to orbit in the middle of the habitable zone of a star like our sun.
Scientists do not yet know if the planet has a predominantly rocky, gaseous or
liquid composition. It's possible that the world would have clouds in its
atmosphere, as depicted here in the artist's interpretation.
Image credit: NASA/Ames/JPL-Caltechร่
รายละเอียด ขอเชิญอ่านต่อที่
http://www.nasa.gov/mission_pages/kepler/multimedia/images/kepler-22b.html

*.*.*
แต่ที่แน่ ๆ  เคปเลอร์  ยากจนค่นแค้นตลอดชีวิตและตายอย่างอนาถา
โยฮันเนส เคปเลอร์ (Johannes Kepler)  นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมัน  ผู้ประสบ
ความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งในด้านดาราศาสตร์  แม้ว่าเขาจะยากจนค่นแค้นตลอดชีวิต
และตายอย่างอนาถา  แต่สิ่งที่มอบให้แก่โลกนั้น ยิ่งใหญ่เหลือเกิน !!
เคปเลอร์  ผู้มีร่างกายผอมเกร็ง และอ่อนแอ  แต่กลับมีจิตใจที่แข็งแกร่ง   มีความมุ่งมั่น
เด็ดเดี่ยวสูง  ที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุผลสำเร็จ

ชีวิตของเขา ประสบเคราะห์กรรมตั้งแต่แรกเกิด
เขาเกิดเมื่อวันที่  27  ธันวาคม  ค.ศ. 1571  ที่ Weil der Stadt, Württemberg
เยอรมนี  เขาคลอดก่อนกำหนดถึง 2  เดือน  ร่างกายเล็กและไม่สมบูรณ์  ครอบครัวก็
ยากจนมาก
เคปเลอร์  ผ่านชีวิตในวัยเด็กที่อ่อนแอ  3  วันดี  4  วันไข้   มาสู่วัยหนุ่มที่ผอมบาง
อมโรค

เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ในลักษณะกึ่งทุพพลภาพ และไม่มีความสุข
เคปเลอร์เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ในลักษณะกึ่งทุพพลภาพ  และมีภรรยา 2 คน
ภรรยาคนแรกของเคปเลอร์  อายุมากกว่าเขาและแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง  เป็นผู้หญิง
ประเภทปากชักยนต์  ชอบบ่นและชวนวิวาทอยู่เนืองนิตย์  รวมทั้งญาติพี่น้องของเธอ
ด้วย  ทำให้ชีวิตเคปเลอร์ไม่มีความสุข

ภรรยาคนที่สองของเขา  ก็เป็นสาวขึ้นคาน  ผู้ชอบทำหน้าหงิกอยู่เป็นประจำ  เนื่องจาก
เงินเดือนของเคปเลอร์  กว่าจะได้รับ  ก็ล่าช้าไม่ทันใจเธอ  เพื่อไปซื้อของใช้สำหรับ
ผู้หญิงที่เธออยากได้

เคปเลอร์ บอกว่า เรื่องดาราศาสตร์เป็นของง่าย
นายจ้างของเขา คือ  พระราชา รูดอล์ฟ แห่งโบฮีเมีย  ผู้เป็นโสด และวิกลจริตถึง 90 %
สั่งให้เคปเลอร์ ดำรงตำแหน่งโหรหลวง  คอยเฝ้าดูดวงดาว และทำนายทายทัก
วางฤกษ์ยามการรบทัพจับศึก  และออกล่าสัตว์
เคปเลอร์  ซึ่งศึกษาคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง  บอกกับพระราชาว่า  เรื่องดาราศาสตร์
เป็นของง่าย
เขาคาดว่า  มีความลึกลับซับซ้อนอยู่มากมายในหมู่ดวงดาวหลากหลายนั้น  และตั้งใจ
แน่วแน่ ที่จะไขความลึกลับเหล่านี้ออกมาให้ได้
เคปเลอร์  ร่างกายผอมบาง  ประกอบกับสายตาสั้น  ขณะนั่งคิดคำนวณตัวเลขอยู่เกือบ
ตลอดคืนนั้น  เขาต้องแนบใบหน้าให้เข้าใกล้กระดาษที่ขีดเขียนอย่างมาก  จนขนคิ้ว
เกือบจะไหม้ไปกับเปลวเทียน
ชายผู้ไม่สมบูรณ์นี้  กัดฟันทนความหนาวเหน็บ และเขียนบนกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่า
โดยอาศัยแสงเทียนหริหรี่  เอาหูทวนลมกับเสียงบ่นของภรรยา
แม้ว่าสายตาของเขา จะเห็นเพียงเลือนลางก็ตาม  แต่เขากลับพบว่า  ทัศนียภาพของ
ดวงดาวทั้งหลายนั้น  มีเสน่ห์ซาบซึ้งกว่าคนสายตาปกติเสียอีก
เคปเลอร์ ไม่เพียงมองเห็นตัวเลขบนกระดาษที่เขาบันทึกไว้เท่านั้น  แต่เขายังมองเห็น
อีกว่า  ตัวเลขเหล่านี้  คือกุญแจสำคัญสำหรับไขความลึกลับของจักรวาล

ปีแล้ว ปีเล่า ที่เขาทำงานอย่างมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ
ด้วยพลังใจอันแกร่งกร้าว ไม่เหมือนใคร  สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า  ปีแล้วปีเล่า  ที่เขา
ทำงานอย่างมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ  จนวันคืนผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว
เขาหมายเหตุข้อสังเกตต่าง ๆ  ลงบนกระดาษปึกใหญ่  รวมทั้งการคำนวณอีกมากมาย

สูญเสียลูกชายสุดที่รัก และเกิดกาฬโรคระบาด
เมื่อเกิดโรคทรพิษระบาด  เคปเลอร์ก็ต้องโศกเศร้าเสียใจ  ต่อการสูญเสียลูกชาย
สุดที่รักไป  แต่เขาก็ยังคงนั่งมองดูดวงดาว  ข้าง ๆ เปลววับแวมของเทียนไขอยู่ต่อไป
อย่างไม่หยุดยั้ง
และเมื่อเกิดกาฬโรคระบาดในแถบถิ่นละแวกบ้านอีก   เคปเลอร์ก็สวมเสื้อคลุมสีขาวเก่า
จนเนื้อผ้ารวน  อพยพครอบครัวไปอยู่ที่อื่น  พร้อมกับหอบกระดาษและเทียนไขไปด้วย

ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเขาได้ ในการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นความอัตคัตเงินทอง  ความเจ็บป่วยเรื้อรัง  หรือโรคระบาดก็ตาม  ล้วนไม่
สามารถจะหยุดยั้งเขาจากการทำงานได้เลย  เพื่อจุดมุ่งหมายแห่งความสำเร็จที่เขา
คาดหวังไว้

ผลสำเร็จที่เคปเลอร์มอบไว้ให้แก่โลกนั้น ยิ่งใหญ่เหลือเกิน !!
เขาได้จัดวางสูตรวิถีโคจรอันถูกต้องของดวงดาว  1 พันดวง  ซึ่งช่วยให้นักเดินเรือ
ทั้งหลาย  นำเรือสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย มาหลายศตวรรษ
เขาค้นพบวิธีใช้เลนส์นูน  2  อัน  และลวดวัดระยะ  ซึ่งได้พัฒนามาเป็นกล้อง
โทรทรรศน์ในปัจจุบัน
เคปเลอร์ ยังได้ค้นพบกฎสามประการแห่งการเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์ทั้งมวล
บนท้องฟ้า  ซึ่งเท่ากับว่า  ชายกึ่งพิการผู้นี้เป็นผู้วางกฎแห่งสรวงสวรรค์

นอกจากนี้  เขายังได้วางหลักคณิตศาสตร์แบบใหม่ ที่เรียกกันว่า  "แคลคิวลัส"
นี่คือสิ่งที่เคปเลอร์มอบไว้ให้แก่โลก เฉพาะที่สำคัญ ๆ เท่านั้น !!
เคปเลอร์  ได้ลาจากโลกนี้ไป  เมื่อปี ค.ศ. 1630  ที่เมือง Regensburg   อายุได้
59 ปี  ตายอย่างอนาถา อยู่ในชุดเสื้อผ้าซอมซ่อสกปรก และบรรจุในโลงศพ
ราคาถูกที่สุดในเมือง !!

สิ่งที่เคปเลอร์ มอบให้ไว้แก่โลก นอกจากผลงานที่ยิ่งใหญ่แล้ว  ก็คือ  "ไม่มีสิ่งใด
สามารถยับยั้งเขาได้เลย  จากความมุ่งมั่นในการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จ  ตามที่
เขาปรารถนา"
 เป็นตัวอย่างที่ดีที่ผู้ที่ต้องการจะบรรลุผลสำเร็จเช่นกัน ควรดำเนิน
รอยตาม

*.*.*
อ้างอิง  :   หนังสือ "ทำปุ๊บ เสร็จปั๊บ"  ของ เดอะ บอสส์  - ขอขอบคุณ
               "โลกดวงใหม่ 'เคปเลอร์ 22-บี' " ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  11  ธันวาคม
                          2554 - ขอขอบคุณ
               เว็บไซต์องค์การ NASA   http://www.nasa.gov/ -  ขอขอบคุณ
ภาพจาก  NASA -  ขอขอบคุณ


อ้างอิงจากhttp://www.oknation.net
Share to friend :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2013. KIP Thai - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger