mas template

พบศพมนุษย์ต่างดาว ตายเปลือยบนกองหิมะ

{[['']]}
นับแต่ปี ค.ศ.1947 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพิ่งยุติลงใหม่ ๆ เป็นต้นมาเมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา กำลังนอนหลับฝันหวาน ท่ามกลางความหนาวเย็นจากพายุฝน หลังเที่ยงคืนเล็กน้อย เสียงฟ้าฟาดสนั่นมีวัตถุบางอย่างตกลงพื้น บริเวณไร่บราเซล ซึ่งมีแม็กซ์ บราเซล เป็นเจ้าของ
แม็กซ์ยังไม่นอนเขายืนอยู่ ที่หน้าต่างมอง ฝ่าสายฝนไป ท่ามกลางความ มืด เมื่อฟ้าแปลบ ปลาบ เขาจึงเห็นชัดเจน สายฟ้าฟาดใส่วัตถุบิน อะไรบางอย่าง แตกกระจายและร่อนถลาลงตกลงที่บริเวณท้ายไร่ แต่เนื่องจากไม่รู้อะไรเป็นอะไร รอจนรุ่งเช้า แม็กซ์จึงออกไปดู พบ เห็นยานร่อนกลมแตกกระจาย เรี่ยราดไปทั่วบริเวณ เมื่อเขาหยิบเศษ วัตถุขึ้นมาดู เป็นวัตถุ สีเทาเงิน ไม่ใช่โลหะ ไม่ใช่ พลาสติกแต่มีน้ำหนักเบา มาก
หลังจากแจ้งเหตุ ไปยังนายอำเภอจอร์จ วิลคอกซ์ แล้วแม็กซ์นำโลหะที่ถือติดมือกลับมาบ้านด้วย มาตรวจสอบดูเขาพยายามบิดให้แตกหัก แต่มันยืดแล้วหดได้ ไม่ฉีกขาดเผาไฟก็ไม่ไหม้ นำไปขูดกับพื้นซีเมนต์กลายเป็นว่าพื้นซีเมนต์เป็นรอยขูดขีดเสียเอง มันเป็นวัตถุหยุ่นเหนียวทนทานมาก
เมื่อนายอำเภอแจ้งเหตุไปยังผู้บังคับการฐานทัพอากาศแห่งเมืองรอสเวลล์ ก็มีเจ้าหน้าที่จำนวนมาก เข้ามาที่ไร่ของเขาเก็บโลหะทุกชิ้น ที่ใช้รถบรรทุกปิดมิดชิด พร้อมทั้งศพมนุษย์ต่างดาว 2 ศพ
แม้กระทั่งชิ้นส่วนวัตถุที่แม็กซ์ ถือติดมือ กลับมาบ้าน ก็ถุกยึดไปด้วย พร้อมกับสถานีวิทยุท้อง ถิ่นออกข่าวว่า ยานต่างดาวถูกฟ้าผ่าตกที่ไร่ของแม็กซ์
วันต่อมากระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงข่าวว่า ไม่ใช่ยานยูเอฟโอ. ตกแต่เป็นบอลลูนตรวจอากาศ ถูกฟ้าผ่า และนับแต่นั้นมาไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย แม้กระทั่ง แม็กซ์เอง อ้างว่าเป็นซีไอเอ. ห้ามเขาพูดถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นให้ยืนยันเป็นบอลลูนตรวจอากาศเท่านั้น
หลายปีต่อมา ปรากฏเป็นภาพและข่าว ขณะซากศพมนุษย์ต่างดาว ถูกผ่าศพ เพื่อชันสูตรศพ แหล่งข่าวระบุว่า เป็นศพมนุษย์ ต่างดาวจากเมืองรอสเวลล์ ซึ่งต่อมาถูกขนย้ายมาที่ หน่วยงานลับสุดยอด ตั้งอยู่กลางทะเลทรายเนวาดา เรียกว่าเขตงาน 51 (แอเรีย 51)
ดังนั้นเหตุการณ์ในปี 1947 ทำให้ผู้สนใจ เกี่ยวกับยูเอฟโอ. ต่างรู้ว่าจานผีหรือยานอวกาศ มนุษย์ต่างดาวนั้น มีทรงกลมเหมือนจานคว่ำ ทำจากวัตถุสีเทาเงินร่อนบินปราศจากเสียงเครื่องยนต์
ส่วนมนุษย์ต่างดาวรับรู้ว่ามีรูปลักษณ์สูง ราว   3-4 ฟุต หัวโต ตาโตเหมือนลูกแอลมอนด์ จมูกเล็ก ปากเล็ก ไม่มีใบหู ผิวหนังเรียบลื่น ไม่มีขน ไม่มีผม มีสีเทาปนเขียว แขนขาลีบเล็ก, แต่มีพลังจิตสะกดผู้คนได้
ส่วนระบบอวัยวะภายใน มีข่าวลือผลการผ่าตัด ศพมนุษย์ต่างดาว จากเมืองรอสเวลล์ มีของเหลวสีน้ำเงิน ไม่มีปอด หัวใจ ลำไส้ มีอวัยวะคล้ายกึ๋น ของไก่ ทำหน้าที่ สังเคราะห์สารบางอย่างที่กินเข้าไป แสดงว่าอาหาร มนุษย์ต่างดาว แตกต่างไปจากอาหารของมนุษย์โลก
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ยานอวกาศมนุษย์ ต่างดาวปรากฏให้ชาวโลกพบเห็น ในหลายภูมิภาค แต่เป็นไปในลักษณะจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย ไม่มีหลักฐาน พยานยืนยันแน่ชัดว่ามีจริง หรือเป็นของจริง จนกระทั่ง นักยูเอฟโอ. วิทยาบางคนตั้งทฤษฎีอธิบายว่าเหตุที่คนเราไม่อาจพบเห็นมนุษย์ต่างดาวได้ ก็เพราะสรีระของมนุษย์โดยเฉพาะประสิทธิภาพของดวงตาไม่อาจ จับภาพมนุษย์ต่างดาวได้นั่นเอง
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาก็เป็น ห่วงกังวลเรื่องมนุษย์ต่างดาวบุกโจมตีโลก จึงตั้งโครงการ หลายโครงการเพื่อตามไล่ล่า หาความจริงเกี่ยวกับยูเอฟโอ. โครงการบลูบุ้ค ได้ชื่อว่า ได้รับ ความสำเร็จในระดับน่าพอใจพอยืนยันได้ว่ามนุษย์ ต่างดาว และยานยูเอฟโอ. ไม่ใช่ข่าวโคมต่อไป
เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้นกระทรวงกลาโหม สหรัฐหรือเพนตากอน ได้ตั้งหน่วยงาน “เซตี” ขึ้นมาเพื่อตามหา สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก โดยตรงและมีข่าวลือ อีกว่าหน่วยงาน แห่งนี้ ถึงกับใช้ เงินหลายล้าน ดอลลาร์ เพื่อขอซื้อซาก จานผีมีสภาพดี ซึ่งจากที่ไซบีเรียนำมาถอดรหัสศึกษาวิจัย ที่หน่วยงานแอเรีย 51
จากการนำซากยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวมาตรวจสอบนี่เอง นักวิทยาศาสตร์สหรัฐจึงรู้ความลับ เทคโนโลยีล้ำยุค ได้แก่แสงเลเซอร์ การแพร่คลื่นวิทยุระบบดิจิตัล คอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต ไปจนกระทั่งการ สร้างโทรศัพท์มือถือหรือเซลลูลาร์ ซึ่งบริษัทโมโตโรล่า ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมารัฐบาลสหรัฐ อเมริกา สั่งยุติล้มเลิกโครงการตามล่าหายูเอฟโอ. ที่เดินทางมาถึง โลกแล้วทุกโครงการ แต่เพิ่มจุดมุ่งหมายตามหาถิ่นที่อยู่สิ่ง มีชีวิตจากดวงดาวต่าง ๆ ที่อยู่นอกโลกเช่นการส่งยาน อวกาศไร้คนควบคุมเดินทางไปสำรวจดาวอังคาร ไปจนถึงดาวพลูโตซึ่งขอบนอกสุดของสุริยจักรวาล
นอกจากนี้ยังใช้กล้องถ่ายภาพแรงสูงติดตั้ง บนยานสเปซ ฮับเบิล ซึ่งโคจรอยู่รอบโลก คอยจับตาความ เคลื่อนไหวของดวงดาวต่าง ๆ รวมไปถึงวัตถุที่จะพุ่งมา ชนโลก ทั้งหมดนี้องค์การนาซ่า เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งหมด
ที่ประเทศอังกฤษ มีผู้พบเห็นยานยูเอฟโอ. บ่อยครั้งมาก ในเวลาต่อมาผู้สนใจใคร่รู้เรื่องราวมนุษย์ ต่างดาวได้ตั้งเป็นสมาคมยูเอฟโอ. ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าการเก็บข้อมูล ยังตามสหรัฐไม่ทันอยู่ดี
เป็นเวลานับสิบปีแล้วก็ว่าได้ การตามล่าหามนุษย์ จากต่างดาว ยังคงวนเวียนอยู่กับการพบเห็นวัตถุประหลาดบินตามหลังเครื่องบินพาณิชย์ หรือบินล้อเล่น ลองเชิงกับเครื่องบินรบอันทรง ประสิทธิภาพของชาวโลกหรือการ เผชิญหน้ากับมนุษย์หัวโต ตาโต แขนขาลีบ ซึ่งต่อมาเรียกตามหนัง ฮอลลีวู๊ด ว่า อี.ที. (ย่อมาจาก Extraterrestral แปลว่าผู้มาจาก นอกโลก) ไปจนถึงการถูกลักพา ตัวไปขึ้นยานอวกาศแล้วถูก ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด จากนั้นส่งตัวกลับพร้อมกับ ความทรงจำการลบเลือนไป ดังนั้นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงเป็นไปในลักษณะนอนหลับ แล้วฝันไปเท่านั้น
แต่เมื่อไม่นานมานี้แหล่งข่าวระบุว่า วันที่ 17 เมษายนที่ ผ่านมา นี้เอง 2 หนุ่ม นักผจญภัยชาวรัสเซีย พบศพมนุษย์ต่างดาว หรืออี.ที. นอนตาย อยู่บนกองหิมะ
ทั้ง 2  หนุ่มไม่รอช้ารีบ ถ่ายภาพตรวจสอบ สภาพศพอย่างละเอียดแล้วส่งมาลงใน อินเตอร์เนต, ยูทูป เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น คนทั่วโลก เกือบ 2 ล้านคนแห่กันมาดูคลิปวีดีโอ. มีความยาว 1 นาทีครึ่ง
2.หนุ่มชาวรัสเซีย บรรยายว่าพวกตนออกจาก บ้านที่เมืองเออร์คุตสค์ เพื่อมาล่ากระต่ายหิมะแล้วมา พบศพมนุษย์ต่างดาวนอนตายอยู่ มีลักษณะหัวโตเบ้าตาโต แขนขาลีบเล็ก วัดความสูงได้ 2 เมตร หรือ 60 เซนติเมตร แขนซ้ายจมอยู่ในหิมะ ขาขวา ขาดหายไปเข้าใจว่าสัตว์ป่า ประเภทหมีหรือจิ้งจอกคาบไป
ที่น่าสังเกตเบ้าตาเป็นโพรงใหญ่ทั้ง 2 เบ้า คล้ายลูกตา ทั้งยวงถูกควักไป น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์มากกว่าสัตว์ป่า
พื้นที่พบศพเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นจุดฮอตสปอต ยานต่างดาวปรากฏให้พบเห็นบ่อยครั้ง คนพื้นเมือง บางคนเคยเห็นยานยูเอฟโอ. ร่อนลงมาบริเวณใกล้เคียงนี้ ดังนั้นศพมนุษย์ต่างดาว ถูกสันนิษฐานที่มาที่ไป 2 ประการ อย่างแรกมนุษย์ต่างดาวนำศพมาทิ้งไว้เองซึ่งถูก สังหารหลังจากทำผิดกฎอย่างร้ายแรง
ประการที่ 2 อีที. ผู้นี้ถูกทหารรัสเซีย ยิงตายก่อนที่จะวิ่งหนีขึ้นยานอวกาศได้ทัน
หนุ่มรัสเซียผู้ใช้นามว่า อิกอร์โมโลลิค กล่าวว่า “เราแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อพบศพเอเลี่ยน ผมถือกล้องวีดีโอ.ไปด้วยรีบถ่ายภาพทันที ผมมองไปรอบ ๆ  ไม่มีวี่แววยานอวกาศร่อนลงจอดที่นี่ ทีแรกนึกว่าถูกผีหลอกเสียอีก
อเล็กซ์ โคมา นอฟ เจ้า หน้าที่ศูนย์วิจัยยูเอฟโอ. รัสเซีย กล่าวถึงเหตุการณ์พบศพอีที.ว่า “จากสภาพร่างกาย น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง มีสิ่งสำคัญบ่งบอกว่านี่คือสิ่งมีชีวิต จริงไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นมา...แต่ผมก็อดแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้ เหตุไฉนมนุษย์ต่างดาวนอนตายร่างกายเปล่าเปลือยเช่นนี้ น่าจะสวมใส่เสื้อผ้าหรือชุดอวกาศ แต่เป็นไปได้ว่า มีคนถอดออกไป เพื่อนำไปวิจัยหรือเก็บไว้เป็นของที่ระลึก”
เมื่อนักข่าวตั้งคำถามการพบมนุษย์ต่างดาวกับ หน่วยงานรัฐบาลรัสเซีย ต่อมามีข่าวแถลงว่าศพมนุษย์ต่างดาวที่ทั่วโลกพากันตื่นเต้นนี้เป็นแค่สิ่งที่ทำจากเศษขนมปัง แล้วห่อหุ้มด้วยหนังไก่ เป็นฝีมือของนักศึกษามหาวิทยาลัย 2 คน ชื่อทีมอร์ ไฮลาล อายุ 18 ปี และเพื่อนชื่อคิริลวลาซอฟ อายุ 19 ปี  ทั้งคู่ได้รับแรงบันดาลใจจาก หนังเรื่อง “เกรมลิน” จึงสร้างหุ่นมนุษย์ต่างดาวขึ้นมา แล้วถ่ายภาพส่งเข้าอินเตอร์เนต เพื่อล้อเล่นกับเพื่อนแค่ ขำ ๆ เท่านั้น
“เราพบศพอี.ทีขนมปัง ใต้เตียงนอนที่บ้าน นักศึกษาคนนี้อีก 1 ตัว เราจึงรู้ว่าผิวหนังทำ จากหนังไก่ อย่าไปเชื่อนี่คือเรื่องแหกตา ทั้งสิ้น “เจ้าหน้าที่รัสเซียคนหนึ่งกล่าวผ่านสื่อ
ขณะเดียวกัน หนุ่มผู้ใช้นามอิกอร์ โมโลวิค ยังคงยืนยันว่าตนเองพบศพมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ โดยให้เหตุผลที่เจ้าหน้าที่รัสเซีย ปกปิดเรื่องนี้ว่า “เรารู้ว่าเราพบเห็นอะไรแต่ผู้มีอำนาจในรัฐบาล ในกองทัพ ไม่อยากให้เราพูดในสิ่งที่เราพบเห็น”
ก็เป็นอันว่าการพบศพมนุษย์ต่างดาว ที่นอกเมือง เออร์คุตสค์ ประเทศรัสเซียถูกแบ่ง ความเชื่อออกเป็น 2 ฝ่ายที่ พบยืนยัน เป็นของจริง ฝ่ายรัฐบาล ยืนยันเป็น อี.ที. ทำจากเศษขนมปัง แล้วห่อหุ้มด้วย หนังไก่เพื่อ ให้ดูสมจริง
มีคำถามว่าหาก เป็นศพมนุษย์ต่างดาว จริงแล้วพวกนี้มา จากไหน ซึ่งคำถามนี้ นักดาราศาสตร์อวกาศ มีคำตอบ มานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2007 เมื่อยาน อวกาศติดตั้งกล้องถ่ายภาพ แรงสูง (เคปเลอร์เทเลส โคป)ได้ค้นพบกลุ่มดาวกลีส 581 เปอร์เซนต์ ซึ่งอยู่นอก ระบบสุริยะจักรวาลของเรา ห่างออกไปราว 20 ปีแสง (1ปี แสงเท่ากับ 10 ล้านกิโลเมตร)
ในกลุ่มดาวกลีส มีอยู่ 2 ดวงคือ กลีส 581 ดี และกลีส 581 คาดว่ามีน้ำมีบรรยากาศคล้ายกับโลก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลอนดอน เพิ่งแถลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าในเอกภพแห่งนี้ มีอย่างน้อย 40,000 จักรวาลที่มี ลักษณะดวงดาวโคจรรอบดวงอาทิตย์ในจำนวนนี้   50 เปอร์เซนต์อาจมีสิ่งมีชีวิตก่อกำเนิดขึ้น
ดร.โฮเวิร์ด สมิธ นักฟิกสิกซ์อวกาศแห่ง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ถึงเราจะรู้ว่า มีสิ่งมีชีวิต อาศัยอยู่บนดวงดาวอื่น ๆ แต่เราก็มีโอกาสน้อยมากที่จะไป พบสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ได้เพราะมีระยะทางห่างมากเกินไป อีกทั้งระบบสรีระของมนุษย์ในยุคนี้ไม่อาจเดินทางไกล ถึงระดับปีแสงได้
กล่าวกันว่าแม้นักวิทยาศาสตร์ชาวโลก สามารถ สร้างยานอวกาศมีความเร็วเท่าแสงได้ แต่ร่างกายมนุษย์ ไม่อาจทนทานต่อความเร็วระดับนี้ได้ ต้องแหลกเป็นฝุ่นผง ยกเว้นเสียว่า...เราเดินทางด้วยพลังแห่งดวงจิตเท่านั้น
เรื่องราวจะเป็นไปอย่างไรอีก กรุณาติดตาม อ่าน “แปลกทะลุโลก ไปเรื่อย ๆ ...บอกแล้วไง เนื้อหาสาระไม่เพียงอ่านแล้วตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น ยังได้ความรู้อีกด้วย





ที่มาhttp://plak.nokroo.com/
Share to friend :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2013. KIP Thai - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger